15 สถานที่ปริศนาทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้





          หลากหลายสถานที่จากทั่วโลกที่ยังคงมีเรื่องราวเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ ปริศนาที่ยังไม่ได้รับการไขให้กระจ่าง และยังไม่มีหลักฐานมายืนยัน

          ยังมีสถานที่อีกมากมายในโลกใบนี้ที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ ทั้งบนผืนดินและใต้มหาสมุทร ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์จะพัฒนาขึ้นมาก แต่ก็ยังมีหลายสถานที่ที่ยังคงเป็นปริศนาให้ขบคิดกัน อย่าง 15 สถานที่นี้ ซึ่งยังคงมีเรื่องราวให้หลายคนสงสัยและถกเถียงกันในประเด็นที่ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครเป็นคนสร้าง และสร้างขึ้นเพื่ออะไร ลองมาชมกันและช่วยกันขบคิดสักหน่อยไหม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมกันเลยค่ะ ^-^

           1. สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)
          หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อสถานที่แห่งนี้มาบ้างแล้ว พื้นที่สามเหลี่ยมนี้อยู่ระหว่างไมอามี เบอร์มิวด้า และเปอร์โตริโก นักบินที่ได้ขับเครื่องผ่านไปบริเวณนี้มักจะพบว่าเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ และหลายครั้งที่มีเหตุเครื่องบินและเรือหายไปในที่แห่งนี้ ซึ่งคำอธิบายของมันก็มีตั้งแต่เรื่องของฟองแก๊สไปจนถึงมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ยังไม่มีใครที่รู้เหตุผลอย่างแน่ชัดสักคน


           2. อาณาจักรอินคาโบราณ (The mighty Incan Empire of South America)
          อาณาจักรแห่งนี้เคยรุ่งเรืองอยู่ในช่วงค.ศ. 1200-1535 บนพื้นที่ทางตอนใต้ของอเมริกา ชาวอินคาพัฒนาระบบส่งน้ำและคูคลองเพื่อการเกษตร และยังได้สร้างเมืองขึ้นจากหินบนภูเขาสูงอย่าง มาชู ปิกชู แต่ถึงอย่างนั้นอาณาจักรอันรุ่งเรืองที่มีกำลังพลชายถึง 40,000 นาย ก็ไม่อาจต่อกรกับไข้ทรพิษและทหารสเปน 180 นาย พร้อมอาวุธครบมือได้ เหลือไว้เพียงซากอารยธรรมอันงดงาม

           3. แอตแลนติส นครที่หายสาปสูญ (The Lost City of Atlantis)
          ตำนานเรื่องนครแอตแลนติสถูกกล่าวถึงเมื่อ 2,400 ปีมาแล้ว โดยเพลโต นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ เมืองนี้เคยเป็นอาณาจักรแห่งสังคมอารยธรรม ตามตำนานเล่าว่ามันถูกจมลงด้วยแผ่นดินไหว กลายเป็นเมืองบาดาลที่ถูกปกป้องไว้โดยเหล่าเงือก หลักฐานล่าสุดมีการพบเมืองใต้น้ำซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณาจักรโบราณอยู่บริเวณไซปรัส นอกชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งไม่มีการยืนยันว่าใช่แอตแลนติสหรือไม่


           4. ซากปรักหักพังแห่งมายัน (The Mayan Temple)
          ตามปฏิทินของชาวมายันพูดถึงเดือนธันวาคม ปี 2012 ว่าเป็นวันสิ้นสุดของวัฏจักรแบ็กทันปัจจุบัน (394.25 ปีทางสุริยคติ) ซึ่งจะเกิดภัยพิบัติ ทำให้ผู้คนกลัวไปต่าง ๆ นานา บางคนเชื่อว่านี่เป็นการเตือนของชาวมายันเกี่ยวกับวันสิ้นโลก บ้างก็ว่ามันอาจจะเป็นแค่การคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ผิดพลาดเท่านั้น


           5. เกาะอีสเตอร์ (Easter Island)
          เกาะที่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลถึง 2,000 ไมล์จากชายฝั่งตาฮิติ ชนพื้นเมืองของที่นี่คือชาวโพลินีเชียน ซึ่งอพยพย้านถิ่นฐานออกไปไกลตั้งแต่ 400-600 ปีก่อนคริสตกาล พวกเขาได้สร้างแท่นบูชาและรูปสลักทิ้งไว้มากมาย เรียกว่า โมอาย ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่รอบเกาะ นักสำรวจยังคงตั้งคำถามกันว่าพวกเขาเคลื่อนย้ายรูปสลักใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ไปรอบ ๆ เกาะได้อย่างไร

           6. พีระมิดโบราณในกีซา ประเทศอียิปต์ (Great Pyramids of Giza)
          คาเฟร และ คูฟู คือพีระมิดโบราณ 2 ใน 3 แห่งของกีซา ประเทศอียิปต์ คูฟูนั้นใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นจากหินมากกว่า 2 ล้านก้อน ซึ่งบางก้อนมีน้ำหนักถึง 9 ตัน พีระมิดโบราณเหล่านี้สร้างขึ้นอย่างซับซ้อนเพื่อเป็นสุสานแด่เทวกษัตริย์ ตั้งแต่ 2,550 ปีก่อนคริสตกาล นักอียิปต์วิทยาเชื่อว่าพีระมิดนั้นสร้างจากหินที่ขุดขึ้นจากเหมืองโดยทักษะของช่างฝีมือ ไม่ใช่แรงงานทาสอย่างที่ชาวกรีกโบราณสันนิษฐานไว้

           7. เส้นนัซกา (Nazca Lines)
          สิ่งนี้อยู่บนพื้นที่มากกว่า 190 ตารางไมล์ในทะเลทรายทางตอนใต้ของเปรู ปรากฏเป็นรูปร่างประหลาดบนพื้นที่ขนาดเท่าสนามฟุตบอลและมีมาก่อนยุคอาณาจักรอินคา รอยประทับนี้มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ไม่มีใครรู้ว่าชาวนัซกาสร้างศิลปะบนผืนดินนี้อย่างไร บางคนเชื่อว่ามันเป็นฝีมือสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ในขณะที่บางคนคิดว่ามันเป็นเพียงการขุดหาแหล่งน้ำก็เท่านั้น 

           8. น้ำพุแห่งความเยาว์วัย (The Fountain of Youth)
          ควน ปอนเซ เด เลออง นักสำรวจชาวสเปน ร่วมกับคนอื่น ๆ ค้นพบอเมริกาในปี 1509 และได้กลายเป็นผู้ว่าการของเปอร์โตริโก 6 ปีหลังจากนั้นตามคำเล่าลือของชาวอินเดียนแดง เขาได้เดินทางขึ้นเหนือไปทางเกาะบิมินิเพื่อตามหาน้ำพุแห่งความเยาว์วัย บิมินิกลายเป็นแหลมแห่งฟลอริดา และน้ำพุก็ยังคงไม่ถูกพบ จนกระทั่ง มิถุนายน ปี 2006 นักมายากลชื่อดัง เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ก็ได้อ้างว่าเขามีน้ำจากเกาะเอ็กซูมาสมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ที่มีสรรพคุณรักษาโรคได้

           9. สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)
          สโตนเฮนจ์ตั้งอยู่ที่วิลต์เชอร์ ประเทศอังกฤษ มันถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ 2,000-3,000 ปีก่อนคริสตกาล โครงสร้างที่เป็นหินก้อนใหญ่วางซ้อนกันนั้นไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจมากนัก คำถามที่เป็นปริศนาใหญ่ไม่ใช่ว่ามันสร้างขึ้นได้อย่างไรแต่เป็น สร้างเพื่ออะไร ?

           10. น้ำตกเลือด (Blood Falls)
          บางคนอาจจะเคยเห็นน้ำตกแห่งนี้จากในภาพ สิ่งที่สะดุดตาคือ น้ำตกสีแดงเหมือนเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนหิมะสีขาวบนธารน้ำแข็งเทย์เลอร์ ในทวีปแอนตาร์กติกา ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาน้ำแข็งและนักจุลชีววิทยาต่างขบคิดถึงสาเหตุของสิ่งที่เห็น และให้ข้อสรุปว่าอาจจะเป็นเพราะธารน้ำใต้ดินที่มีเหล็กในปริมาณมากจนทำให้น้ำเป็นสีแดง สิ่งที่แปลกก็คือ เมื่อไม่นานนี้ได้มีการวิจัยพบจุลชีพที่ยังมีชีวิตอยู่ลึกลงไปในน้ำแข็ง 1,300 ฟุต ซึ่งพวกมันดำรงชีพอยู่ได้ด้วยเหล็กและกำมะถันที่มีมากในน้ำ

           11. อนุสาวรีย์คนเลี้ยงแกะ (Shepherd’s Monument Inscription)
          ในสแตฟฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ มีประติมากรรมที่ทำให้ผู้คนต้องใช้เชาวน์ปัญญาขบคิดมากมายในการถอดรหัสข้อความ "DOUOSVAVVM" ที่อยู่บนนั้น ถึงแม้ว่าอนุสาวรีย์แห่งนี้จะถูกสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครถอดรหัสมันได้สำเร็จเลย 

           12. เนินแม่เหล็ก (Magnetic Hill)
          ปรากฏการณ์แปลก ๆ ที่เนินแห่งนี้ถูกพบในช่วงปี 1930-1939 จนสถานที่นี้ได้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนได้ลองมาสัมผัสกับเรื่องแปลก ๆ และยังคงเป็นที่สงสัยว่าทำไมรถถึงวิ่งถอยหลังขึ้นเนินเองทั้งที่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องเลยได้ จะเป็นเพราะแรงแม่เหล็กของโลก หรือเพราะเรื่องเหนือธรรมชาติอื่น ๆ กันแน่ 

           13. จอร์เจียไกด์สโตน (Georgia Guidestones)
          บางคนให้ฉายามันว่าสโตนเฮนจ์เวอร์ชั่นอเมริกัน สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในแอลเบิร์ต เคาน์ตี้ และยังคงปกคลุมไปด้วยปริศนาแม้มันจะตั้งตระหง่านตรงนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 สิ่งที่จารึกอยู่บนหินแต่ละด้านคือ 10 พระบัญญัติใหม่ในภาษาอังกฤษ สวาฮิลี ฮินดี ฮิบรู อารบิก จีน รัสเซีย และสเปน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นทำไม หรือเพื่อใคร

           14. เหตุระเบิดที่ตุงกุสคา ประเทศรัสเซีย (The Tunguska Explosion of Russia)
          ระเบิดปริศนานี้เกิดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 1908 ตอน 7.14 น. แรงระเบิดล้มต้นไม้ไปถึง 80 ล้านต้น บนพื้นที่ 830 ตารางไมล์ เหลือไว้แต่ซาก หลายคนเชื่อว่าการระเบิดเกิดจากการแตกตัวของอุกกาบาตหรือดาวหางขนาดใหญ่ที่พุ่งมายังโลก ในขณะที่บางคนคิดว่ามันอาจเป็นปรากฏการณ์หลุมดำหรือการมาเยือนของยูเอฟโอ

           15. เกรย์แฟร์ เคิร์ก (Greyfriars Kirkyard)
          ผีแม็กเคนซีเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยวที่เกรย์แฟร์ เคิร์ก ในเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประสบการณ์หลอนอย่างการพบรอยช้ำตามตัว ถูกข่วน  หรือเป็นลมทันทีเมื่อเข้าไปในสุสานดำซึ่งเป็นที่ฝังศพ เซอร์ จอร์จ แม็กเคนซี ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นแค่การจัดฉากหรือไม่ คงต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น

          แต่ละที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอะไรแปลก ๆ แบบนี้ด้วย สักวันหนึ่งวิทยาศาสตร์คงจะสามารถอธิบายปรากฏการณ์แปลก ๆ แบบนี้ได้ ระหว่างนี้พวกมันก็ยังคงเป็นปริศนาให้คนตั้งข้อสงสัยกันต่อไปค่ะ


ขอบคุณเรื่องจาก thewondrous  , list25  , sunnyskyz




คิดอย่างไรกับเรื่อง: 15 สถานที่ปริศนาทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ ?

รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
15 สถานที่ปริศนาทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ โพสต์เมื่อ 2 กรกฎาคม 2558 เวลา 11:00:23 721 อ่าน แสดงความคิดเห็น
TOP